ประเภทคนโกงถูกเตือนแล้วโกรธ มี ๘ จำพวก

 

คนโกง ๘ จำพวกที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎก

เลิกงานขอสักโพสต์ ยำภาพมาร่วมเป็นหนึ่ง ระหว่างรอให้หิวเต็มที่ ร่างกายพร้อกิน เพื่อสุขภาพ ฮ่า ๆ

ใครทำกรรมอะไรไว้กับใครหัดจำไว้ด้วยเด้อ เวลาโดนกรรมตีคืนจะได้ไม่ งง

อ่านแล้วเพลินดี เลยลอกมาให้อ่าน CR.line

“คนโกง” ในอังคุตรนิกาย เปรียบเทียบกับม้าพยศ ในพระไตรปิฎกใช้คำว่า ม้าโกง

๑. คนโกงเมื่อทำผิด พอเตือน ก็แกล้งพูดว่านึกไม่ออก จำไม่ได้

เปรียบเหมือน ม้าโกงที่นายสารถีเตือนว่าจงเดินไป ถูกแทงด้วยปฏักเตือนอยู่ ย่อมถอยหลัง ดันให้รถกลับหลังฉะนั้น

๒. คนโกงเมื่อทำผิด พอเตือน กลับย้อนไปว่า ท่านเป็นคนโง่ ควรสำนึกคำที่ควรพูด ให้ท่านทำตัวให้ดีเสียก่อน

เปรียบเหมือนม้าโกงที่นายสารถีเตือนว่า จงเดินไป ถูกแทงด้วยปฏัก เตือนอยู่ ย่อมหักหลัง ดีดธูปหัก มันเลยลากเกวียนไป

๓. คนโกงเมื่อทำผิด พอเตือน ก็ไม่ยอมรับผิด ไม่ฟัง สวนกลับว่าท่านก็ผิดเรื่องนู้นนี่นั่น

เปรียบเหมือนม้าโกงถูกแทงฯ ย่อมยกขาข้ึน ตะกุยงอนรถ ถีบงอนรถ เราเตือนมันไปข้อเดียวมันยกมาเตือนเรา10เรื่องเลย

๔. คนโกงเมื่อทำผิด พอเตือน ก็เปลี่ยนเรื่อง เฉไฉ โกรธ แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน

เปรียบเหมือนม้าโกงท่ีถูกเตือนและปฏักแทง ย่อมเดินผิดทาง ทำให้รถคว่ำ

๕. คนโกงเมื่อทำผิด พอเตือน ก็ห้ามไม่ให้มีการสอบสวน

เปรียบเหมือนม้าโกงถูกเตือนและ แทงด้วยปฏัก ย่อมเชิดกายเดินหน้า เผ่นข้ึนไป ท่ีประชุมพูดเตือนไม่ฟัง

๖. คนโกงเมื่อทำผิด พอเตือน ก็ไม่สนใจอะไร เดินออกไปอย่างไม่เคารพ

เปรียบเหมือนม้าโกงถูกเตือนอยู่และแทงด้วยปฏักแล้วหลีกไปอีกทาง

๗. คนโกงเมื่อทำผิด พอเตือน ก็ไม่ยอมพูด ไม่ตอบ นิ่งเฉย

เปรียบเหมือนม้าโกงถูกแทง ไม่ยอมก้าวไปข้างหน้า ไม่ถอยหลัง ยืนเฉย

๘. คนโกงเมื่อทำผิด พอเตือน ก็บ่นว่าจะมาวุ่นวายอะไรกับเรา ทำไมจึงชอบหาเรื่องให้เรานัก

เปรียบเหมือนม้าโกงที่ถูกแทงตักเตือนอยู่ คุกเท้าหน้า เท้าหลัง ลงนอนทับเท้าทั้ง ๔

ในการโจทย์กล่าวโทษตักเตือนกัน เป็นไปเพื่อให้เขาทำจากผิดให้เป็นถูก

จากมิจฉาทิฐิบดบังความไม่ดี ให้มีสัมมาทิฐิเห็นถูกเห็นชอบ

แต่ถ้าเราเป็นผู้ที่ใครเตือนไม่ได้ แล้วไม่ให้ใครเตือน เมื่อรู้ตัวว่าผิด

แต่ยอมไม่ได้ที่ให้ใครว่าตัวผิด นี่คือโทษของความโกรธ

เพราะหลงตัวเองคิดว่าตัวเองดีที่สุด จึงเป็นความยากต่อการที่ผู้อื่น

จะเป็นกัลยาณมิตรด้วย ห่างไกลจากมิตรแท้ ห่างจากทางบรรลุมรรคผลพระนิพพาน